สำหรับ iPod touch (5th Generation) ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สมกับการรอคอยมาถึง 2 ปี หน้าจอขนาดใหญ่ขึ้น ซีพียูดีขึ้นกว่าเดิม และที่สำคัญคือกล้องชัดแจ๋มว้าวขึ้นกว่าเดิม
*iPod touch (5th Generation) ต่อไปขอเรียกสั้น ๆ ว่า iPod touch ก็แล้วกัน
รูปร่างหน้าตาของ iPod touch ต้องบอกว่าสัมผัสแรกที่คิดขึ้นมาได้คือบางและเบากว่าเมื่อครั้งที่ได้ถือ iPhone 5 มาก ๆ โดยตัวเครื่อง iPod touch รุ่นใหม่จะมีหน้าจอยาวขึ้นเป็น 4 นิ้วความละเอียด 1136×640 พิกเซลอัตราส่วนแบบ 16:9 ทำให้มีพื้นที่หน้าจอเพิ่มขึ้นมาสำหรับไอคอนได้อีก 1 แถว โดยบริเวณด้านหน้าของเครื่องที่เป็นสีขาวจะมีด้านหลังให้เลือกเป็นสีฟ้า, สีเหลือง, สีเงิน, สีชมพู และสีแดง (ต้องสั่งจากออนไลน์เพียงอย่างเดียว) ส่วนถ้าด้านหน้าเครื่องเป็นสีดำ ด้านหลังเครื่องก็จะเป็นสีดำด้วย




เทียบความหนากับ iPhone 4S

เทียบความหนากับ iPod touch (4th Generation)
ตัวเครื่องด้านหลังเป็นอลูมิเนียมมีปุ่มล็อกสายคล้องแขนอยู่มุมล่างซ้าย โดยปุ่มดังกล่าวจะเป็นปุ่มสีเงินขนาดไม่ใหญ่นักสามารถกดเพื่อให้ตัวปุ่มเด้งขึ้นมาเพื่อใช้งานร่วมกับสายคล้องข้อมูล iPod touch loop ได้ กลไกของปุ่มดังกล่าวจะเป็นสปริงอยู่ภายใน

ซ้าย : ด้านหลังเครื่อง iPod touch (5th Generation) / ขวา : ด้านหลังเครื่อง iPod touch (4th Generation)
ความรู้สึกจับถือต้องบอกว่าดีใช้ได้เพราะทั้งน้ำหนักเพียง 88 กรัมและความบางแค่ 6.1 มม. เชื่อว่าเป็นน้ำหนักและความบางในฝันเลยทีเดียว แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะชอบที่เครื่องบางมากขนาดนี้ เพราะถ้าเป็นคนมือใหญ่จับพวกของบาง ๆ แบบนี้ก็เป็นได้ว่าจะรู้สึกไม่กระชับมือสักเท่าไหร่
การใช้งาน (สเป็ค iPhone 4S)
สำหรับ iPod touch รุ่นใหม่สเป็คเครื่องอย่างที่พอจะทราบกันอยู่แล้วบ้างว่าใช้ซีพียู A5 ความเร็ว 1GHz แรม 512 MB หน้าจอมีขนาด 4 นิ้ว ถ้าดูจากตัวเลขเหมือนจะมีหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น แต่เอาจริง ๆ แล้วหน้าจอดังกล่าวไม่ได้ใหญ่ขึ้นแบบกว้างขึ้นยาวขึ้นทั้ง 2 ด้าน แต่เป็นแค่หน้าจอยาวขึ้นอย่างเดียว ทำให้พื้นที่การแสดงผลจำกัดความกว้างที่ 640 พิกเซลเช่นเดิม ส่วนความสูงปรับจาก 960 เป็น 1136 พิกเซล โดยเมื่อวัดอัตราส่วนหน้าจอก็จะเป็นแบบ 16:9 เหมือนชาวบ้านชาวช่องเขานั้นแหล่ะ เพียงแต่พิกเซลที่แอปเปิ้ลทำไม่เข้าพวกกับใคร ซึ่งดู ๆ แล้วอนาคตแอปเปิ้ลและทุก ๆ ยี่ห้อคงไปจบที่หน้าจอความละเอียด 1920×1080 พิกเซล ส่วนอนาคตหลังยุค 1080p แล้วจะก้าวไปที่ความละเอียดเท่าไหร่คงเป็นเรื่องที่ยังไม่สามารถคาดเดาได้



ด้านซอฟท์แวร์ที่รองรับหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นก็จะทำให้เราเห็นการแสดงผลเต็มตาชัดเจนกว่าเดิมเหมือนว่ามีพื้นที่หน้าจอเหลือก็ขยายขอบของแอพฯไปให้เต็มจอประมาณนั้น ซอฟท์แวร์ที่เห็นชัดที่สุดสำหรับการใช้หน้าจอที่มีขนาดใหญ่ขึ้นคงเป็นเรื่องเกี่ยวกับวิดีโอไม่ว่าจะเป็นการดูวิดีโอหรือการบันทึกวิดีโอ การเปิดหน้าเว็บต่าง ๆ เมื่อเทียบกับหน้าจอ 3.5 นิ้วแบบเดิมก็จะเห็นชัดว่าแสดงผลจำนวนบรรทัดตัวอักษรได้มากขึ้นแต่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากเท่าไหร่
ความแรงของตัวเครื่องเวลาใช้แอพฯ iMovie ในการ Export ไฟล์วิดีโอ 1080p ไปที่ Camera Roll เท่าที่ลองใช้และเปรียบเทียบกับ iPhone 4S ก็จะใช้เวลาพอ ๆ กันเรียกว่า iPhone 4S ทำได้แค่ไหน iPod touch ก็ได้เหมือน ๆ กัน
สำหรับหูฟัง EarPods ที่ให้มาในกล่อง iPod touch จะเป็นแบบไม่มีไมค์และรีโมท โดยเสียงของ EarPods โดยเสียงจะเหมือน ๆ กับรุ่นที่มีไมค์และรีโมท ทุกท่านสามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากรีวิวก่อนหน้านี้
สายคล้องข้อมือ iPod touch loop
ถือเป็นลูกเล่นใหม่ที่แอปเปิ้ลใส่เข้ามาให้กับ iPod touch รุ่นนี้ โดยสายคล้องข้อมือที่แอปเปิ้ลทำออกมา ซื้อ iPod touch สีอะไรเราก็จะได้สายคล้องข้อมือสีเดียวกับตัวเครื่องแถมมาในกล่อง ส่วนถ้าซื้อแยก 1 กล่องจะมี 2 เส้นคือสีตามที่เราเลือกและสีขาว ราคากล่องละ 350 บาท

คุณภาพวัสดุของ iPod touch loop เท่าที่จับ ๆ ลูบคลำผมคิดว่าเป็นแบบเดียวกับ iPad Smart Cover คือโพลียูรีเทน สายคล้องปลายด้านหนึ่งจะถูกเจาะมาเป็นช่องให้นำไปคล้องกับหมุดที่ด้านหลังเครื่อง iPod touch โดยการคล้องสายเข้ากับหมุด การล็อกสายเข้ากับหมุดคือเมื่อคล้องเข้าไปแล้วเราต้องดึงสายลงมาเล็กน้อยให้ช่องเล็ก ๆ ลงมาอยู่ใต้หมุด


ความมั่นคงแข็งแรงของสายคล้องข้อมือเวลาล็อกกับ iPod touch แล้ว ผมเองก็ไม่กล้าจะเหวี่ยงเครื่องแรง ๆ โชว์นะครับ เพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝัน แต่เท่าที่ลองเหวี่ยงแบบเบา ๆ และลองเขย่า ๆ ดูก็พบว่าไม่แยกชิ้นไปคนละทางสองทางครับ ทั้งนี้ก็อย่าเชื่อหรือมั่นใจมากก็แล้วกัน

เหตุที่ต้องทำสายคล้องข้อมือหรือ iPod touch loop ออกมาด้วย ผมคิดเอาเองว่าเป็นเพราะตัวเครื่องบางเกินไปในการถือใช้งานบางลักษณะเช่นการถือเครื่องแนวนอนเพื่อถ่ายรูปหรือถ่ายวิดีโอแบบมือเดียวก็มีเสียวเหมือนกันว่าถือ ๆ อยู่แล้วเครื่องจะหล่นหรือไม่เพราะเครื่องบาง ๆ ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไร่ การมีสายคล้องข้อมือมาให้ใช้งานก็ช่วยให้มั่นใจว่าเครื่องไม่ตกลงพื้นแน่ ๆ ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝัน

ถ่ายรูปนิ่ง
สิ่งที่หลายคนน่าจะชอบใน iPod touch คือแอปเปิ้ลปรับปรุงเรื่องกล้องของ iPod touch สักทีจากรุ่นก่อน ๆ ที่หวังพึ่งพาอะไรไม่ค่อยได้ พอมาเป็นรุ่นนี้ปรับกล้องด้านหลังให้มีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องด้านหน้าความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโต้โฟกัสและการถ่ายรูปแบบพาโนรามา และมีระบบ Face Detection มาให้ด้วย

คุณภาพของภาพจาก iPod touch (5th Generation) คงไม่ต้องเอาไปเทียบกับรุ่นเดิมให้เสียเวลา เพราะดีขึ้นชนิดไม่เห็นฝุ่น โดยผมได้ลองถ่ายรูปจาก iPod touch, iPhone 4 และ iPhone 4S มาเทียบกันว่าเป็นอย่างไร
ผลปรากฏว่ากล้อง 5 ล้านพิกเซลของ iPod touch เทียบกับกล้อง 5 ล้านพิกเซลของ iPhone 4 จะเห็นได้ชัดว่าระบบ White Balance ของ iPod touch ดีกว่ามาก โดยรูปตัวอย่างด้านล่างจะเห็นว่าสีขาวจากล้อง iPhone 4 จะวัดไม่ตรงคือจะเป็นขาวอมเขียวเล็กน้อย ส่วนเมื่อนำปีนเกลียวเทียบกับกล้อง 8 ล้านพิกเซลของ iPhone 4S ก็จะเห็นได้ว่าโทนสีจาก iPod touch จะไม่ใสเท่ากับภาพที่ได้จาก iPhone 4S
ทั้งนี้เรื่อง White Balance ของ iPod touch ก็ยังคงมีเพี้ยน ๆ อยู่บ้างในกรณีที่เจอแสงจ้ามาก ๆ การวัดแสงก็จะไม่ตรงสักเท่าไหร่
***ทุกรูปที่ถ่ายจาก iPhone 4S, iPhone 4 และ iPod touch (5th Generation) ทุกรูปไม่มีการแต่งรูปเพิ่มทำการย่อรูปและใส่ตัวหนังสือเท่านั้น

การถ่ายรูปทั่วไปของ iPod touch หวังพึ่งพาได้ ถ้าดูจาหน้าจอ iPod touch และ iPhone 4S เอามาดูเทียบกันก็แทบจะไม่ต่างกันเลย ส่วนถ้าเอามาเทียบกันในจอคอมพิวเตอร์ก็จะมีความต่างอยู่นิดหน่อยที่ภาพโดยรวมจาก iPhone 4S จะใสกว่า


ส่วนถ้าเป็นกลางคืนตามท้องถนนทั่วไปจะเห็นความต่างในเรื่องของเกรน (Grain) ขึ้นมาบนภาพจากกล้องของ iPod touch



สำหรับภาพถ่ายแบบพาโนรามาจาก iPod touch เมื่อเทียบกับ iPhone 4S ภาพถ่ายเวลากลางวันก็จะต่างกันเรื่องความใสของภาพนิดหน่อย สีท้องฟ้าที่ได้จาก iPod touch จะออกฟ้าจืด ๆ ไม่เหมือนกับใน iPhone 4S ที่สีท้องฟ้าจะเห็นว่าเข้มกว่าเล็กน้อย


ส่วนภาพพาโนรามาในสภาพแสงน้อยน่าตกใจว่าคุณภาพที่ได้ตกลงมาก โดยสีสันของภาพจะมืดมากแทบไม่เห็นรายละเอียดภายในภาพ เมื่อเทียบว่าถ่ายรูปในที่เดียวกันแต่เป็นแบบธรรมดาก็ยังเห็นรายละเอียดภาพอยู่และภาพยังสว่างกว่าอย่างชัดเจน และเมื่อเทียบกับ iPhone 4S ความสว่างของภาพแบบพาโนรามาสว่างต่างกันชัดเจน



ถ่ายวิดีโอ
ด้านการถ่ายวิดีโอของ iPod touch รุ่นใหม่ที่ปรับความละเอียดการถ่ายให้เป็น 1080p (Full HD) เหมือน ๆ กับ iPhone 4S จากที่ได้ลองและเทียบกันก็จะเห็นจะมีแค่เรื่องความใสของภาพที่ต่างกัน นอกนั้นก็จะคือ ๆ กันไม่ว่าจะเป็นการเก็บเสียงที่สามารถเก็บเสียงได้ดี ระบบกันสั่นก็พอกันคือจะมีหลอกตาอยู่บ้าง โดยผมลองถ่ายวิดีโอพร้อมกันและนำมาทำเป็นวิดีโอให้ดูตามด้านล่างก็ลองดูแล้วว่าต่างกันมากหรือน้อยแค่ไหน
แบตเตอรี่
สำหรับเรื่องเกี่ยวกับแบตเตอรี่คงต้องร่ายถึงช่องต่อ Lightning Connector เสียก่อนว่ามีขนาดหัวที่เล็กมากเมื่อเทียบกับหัวต่อ Dock Connector แบบเดิม ข้อดีของ Lightning Connector คือไม่มีด้านหน้าด้านหลังสามารถจิ้มด้านไหนก็ได้ไม่ต้องกลัวผิดด้านเหมือนกับหัวต่อแบบเดิม


ระยะเวลาการใช้งาน iPod touch ว่าไปก็เทียบลำบากครับ เพราะถ้าเทียบกับ iPod touch (4th Generation) ก็ต้องบอกว่า iPod touch (5th Generation) ดีกว่าเยอะในเรื่องชั่วโมงการใช้งาน แต่ถ้านำมาเทียบชั้นกับ iPhone 4S ที่มีสเป็คซีพียูตัวเดียวกันก็ไม่สามารถเทียบได้ตรง ๆ เพราะ iPhone 4S ที่ใช้อยู่ก็ใส่ซิมและเปิด 3G เพื่อใชังานไว้ตลอดเวลา ทำให้แบตเตอรี่ใน iPhone 4S แม้จะมีเยอะกว่าแต่ก็หมดก่อน ซึ่งในระหว่างการทดสอบผมเองก็พกเจ้า iPod touch (5th Generation) ไปไหนต่อไหนด้วยไม่ได้ใช้งานตลอดเวลา แต่ไม่ได้ทำต่อ Wi-Fi ตลอดเวลาเลยไม่สามารถทราบได้ว่าถ้าเราอยู่ในสถานที่ ๆ มี Wi-Fi ตลอดและใช้งานเกือบตลอดแบตเตอรี่จะสามารถอยู่ได้กี่ชั่วโมง



เรื่องที่ไม่ชอบ
สำหรับเรื่องที่ไม่ชอบใน iPod touch รุ่นนี้คงเป็นเรื่องที่แอปเปิ้ลตัดความสามารถการปรับแสงหน้าจออัตโนมัติออก (Ambient light sensor) โดยแอปเปิ้ลให้เหตุผลว่าตัวเครื่องบางไปไม่สามารถใส่เซ็นเซอร์วัดแสงอัตโนมัติเข้ามาได้ ทำให้การปรับแสงสว่างเราจะต้องเข้าไปปรับเองในส่วนของ Settings

ปัญหาของการไม่มีเซ็นเซอร์ปรับแสงอัตโนมัติจะเกิดขึ้นเวลาที่เราหยิบเครื่องมาใช้งานช่วงก่อนนอนที่ปิดไฟในห้องมืดแล้วหรือช่วงตื่นเช้าแล้วห้องนอนมืด ๆ แสงจากหน้าจอจะสว่างจ้ามาก ซึ่งก็ต้องเข้าไปปรับความสว่างให้ลดลงเอง พอเราหยิบเครื่องมาใช้ข้างนอกก็ต้องเข้าไปปรับแสงหน้าจออีกครั้งให้สว่างเพิ่มขึ้นเพื่อใช้งานตอนกลางวัน


ซ้าย : หน้าจอ iPhone 4 ที่มี Ambient light sensor / ขวา : หน้าจอ iPod touch (5th Generation) ที่ไม่มี Ambient light sensor
สรุป

สำหรับ iPod touch (5th Generation) ถือว่าเป็นรุ่นที่คนอยากได้ iPod touch รอคอยมานานถึง 2 ปี สิ่งที่ปรับปรุงขึ้นส่วนใหญ่ก็ดีขึ้นอย่างชัดเจนยกเว้นเรื่องปรับแสงหน้าจออัตโนมัติที่โดดตัดออก เรื่องหมุดเกี่ยวสายคล้องข้อมือส่วนตัวยังสงสัยอยู่ว่าในอนาคตตอนที่ปรับโฉม iPod touch อีกรอบจะยังเก็บเจ้าปุ่มนี้ไว้หรือไม่ นอกนั้นถือว่า iPod touch รุ่นนี้แจ๋วทีเดียว หลายคนที่ไม่ได้อยากซื้อ iPhone ่อยากได้แค่ iPod touch ก็คงสมใจสักที เพราะสเป็คโดยรวมไม่ได้ขี้เหร่เหมือนในอดีตแล้ว
จุดสังเกต
- ความรวดเร็วในการใช้งานพอ ๆ กับ iPhone 4S
- กล้องถ่ายรูปเชื่อใจได้ในความคมชัด
- ถ่ายรูปแบบพาโนรามาในสภาพแสงน้อยออกมาได้ไม่ดีเท่าไหร่
- ไม่มีเซ็นเซอร์ปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติ
ราคา :
- รุ่น 32GB – 9,900 บาท
- รุ่น 64GB – 13,500 บาท